เที่ยวปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ฤดูฝน
เที่ยวปายหน้าฝนมองไปทางไหนก็เขียวหมดเลย สบายตา และอากาศดีม๊ากกกก
การเดินทางมายัง ” ปาย ”
1.รถยนต์ส่วนตัว สามารถเดินทางมาตามเส้นทาง เชียงใหม่ – แม่ริม – แม่แตง – แม่มาลัย – ปาย โดยเส้นทางจะมีความคดเคี้ยวและสูงชัน ต้องอาศัยทักษะในการขับรถ
2.รถประจำทาง รถตู้ เชียงใหม่ – ปาย – แม่ฮ่องสอน สามารถขึ้นได้ที่สถานีขนส่งอาเขตเชียงใหม่ ราคาค่าโดยสารประมาณ 150 บาท ตารางรถดูได้ที่ http://premprachatransports.com/routes-th
ไปดูที่เที่ยวปาย ว่าไปไหนได้บ้าง
1.สะพานประวัติศาสตร์ปาย
เป็นจุดแรกที่ถ้ามาเที่ยวปายแล้วเราจะเจอ จะอยู่ก่อนเข้าตัวเมืองปาย ใครไม่แวะถ่ายรูปตรงนี้ถือว่ามาไม่ถึงปายนะ
ประวัติ : เมืองปายในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ประเทศญี่ปุ่นเคลื่อนพลเข้ามาตั้งฐานทัพในประเทศไทย ต้องการลำเลียงเสบียงอาหารและยุทโธปกรณ์ต่าง ๆ ผ่านจังหวัดแม่ฮ่องสอนเพื่อเข้าโจมตีประเทศพม่า แต่ด้วยสภาพภูมิประเทศไม่เอื้ออำนวย เป็นภูเขา หุบเหวและมีลำน้ำปายขวางกั้น จึงทำให้ญี่ปุ่นต้องเกณฑ์ชาวบ้านจ้างให้ขุดถางสร้างเส้นทางระหว่างเชียงใหม่ไปแม่ฮ่องสอน และจากแม่ฮ่องสอนไปยังเชียงใหม่ โดยมาบรรจบกันที่สองฝั่งของแม่น้ำปาย บริเวณบ้านท่าปาย แล้วสร้างสะพานไม้เชื่อมระหว่างสองฝั่งกลายเป็น สะพานที่เชื่อมประวัติศาสตร์สงครามเข้าด้วยกัน หลังจากสงครามโลกครั้งที่สองสิ้นสุดลง ญี่ปุ่นแพ้สงครามจึงได้ถอยทัพกลับ พร้อมกับเผาสะพานแห่งนี้ทิ้ง ทำให้ชาวบ้านทั้งสองฝั่งของแม่น้ำปายที่เคยได้อาศัยสะพานแห่งนี้ เป็นทางคมนาคมต้องพบความยากลำบาก ชาวบ้านทั้งสองฝั่งของท่าปายจึงได้ร่วมแรงร่วมใจกันสร้างสะพานไม้ขึ้นอีกครั้ง แต่ในปี 2516 เกิดอุทกภัยใหญ่ขึ้นทำให้บ้านเรือน เรือกสวนไร่นาพังเสียหาย สะพานไม้ท่าปายก็ถูกน้ำพัดพาทำลายไป ทางอำเภอปายจึงได้ทำเรื่องขอสะพานเหล็ก “นวรัฐ” เดิมของจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งขณะนั้นไม่ได้ใช้การแล้ว นำมาใช้แทนสะพานไม้ที่ถูกกระแสน้ำพัดทำลายไป (สะพานนวรัฐจากจังหวัดเชียงใหม่ ได้ถูกทยอยขนย้ายขึ้นมาประกอบใช้ใหม่ ที่อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน) หลังจากนั้น 1 ปีเต็ม จึงได้ประกอบขึ้นจนแล้วเสร็จ เป็น “สะพานประวัติศาสตร์ท่าปาย” ในปัจจุบัน
2.ร้านกาแฟ Coffee in love
เป็นร้านกาแฟที่ตั้งอยู่บนเนินเขา ริมถนนใหญ่ ที่สำคัญมีวิวที่สวยงาม มองเห็นเมืองปาย ทุ่งนา และภูเขา เป็นร้านกาแฟที่มีวิวสวยงามทีเดียว และยังมีบ้านสีเหลืองหลังใหญ่ สะดุดตานักท่องเที่ยว ทำให้มักจะมีผู้คนแวะเวียนมาถ่ายภาพ
3.โป่งน้ำร้อนท่าปาย เขตอุทธยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง
โป่งน้ำร้อนท่าปาย เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติและไทย มักจะมาลงแช่น้ำร้อนผ่อนคลาย นั่งเล่น หรือไม่ว่าจะเป็นการต้มไข่ ทานเล่นสนุกๆ
โดยมีค่าบริการสำหรับคนไทย 50 บาท /ท่าน ยานพาหนะ 30 บาท/คัน
ที่นี่มีบ่อน้ำร้อนขนาดใหญ่ 2 บ่อและจะมีอีกหลายจุดที่มีน้ำร้อนพุดออกมา บางจุดจะมีความร้อนถึง 80 องศาเซลเซียส
4.วัดพระธาตุแม่เย็น
ตั้งอยู่บนเขาทางทิศตะวันออกหลังหมู่บ้านแม่เย็น ด้านหลังโบสถ์เป็นที่ตั้งเจดีย์เก่า สร้างในสมัยใดไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัด จากจุดนี้สามารถมองภูเขา เห็นทิวทัศน์ของอำเภอปายได้ทั่วถึงไม่ว่าจะเป็นบ้านเรือนหรือทุ่งนา
ในตอนเย็นจะมีนักท่องเที่ยวชาวไทยชาวต่างชาติมารอชมพระอาทิตย์ตก โดยมีเทือกดอยจิกจ้องเป็นฉากหลัง เป็นช่วงเวลาที่สวยงามทีเดียว
5.ถนนคนเดินปาย
ถนนคนเดินเป็นเสน่ห์ของเมืองปายอีกอย่างหนึ่ง ซึ่งใครมาเที่ยวปายก็ต้องมาเดินถนนคนเดินในช่วงเย็น เลือกซื้อของฝาก ของกิน หรือไม่ว่าจะนั่งทานอาหาร หาร้านชิวๆนั่ง ที่นี่ชาวต่างชาติเยอะมาก
6.พริ้วปาย guesthouse
ที่พักท่ามกลางธรรมาชาติเหมือนพักอยู่บ้านตัวเอง ที่พักจะอยู่ในชุดชนหมู่บ้านที่ไม่แออัด มีทุ่งนารอบๆ สัมผัสได้ถึงความเป็นธรรมชาติ
ในบริเวณบ้านพักจะมีต้นไม้ ผลไม้ และสนามหญ่า ทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายและร่มรื่น มีพื้นที่ให้เดินเล่น ทำกิจกรรม ตัวบ้านเป็นบ้านไม้ 1 หลัง 1 ห้องพัก หลังคากระเบื้องที่ฝังตัวอยู่ใต้ร่มเงาต้นไม้ และบ้านที่ดูเข้ากับธรรมชาติอย่างกลมกลืน ห้องพักตกแต่งให้อารมณ์แบบธรรมดาแต่หน้าพักผ่อน ดูไม่ต้องมีอะไรมากให้ดูรกหูรกตา ห้องน้ำที่ตกแต่งสไตล์เอาท์ดอ มองเห็นท้องฟ้าเวลาอาบน้ำ ชิวสุดๆ สรุปเหมือนมาพักอยู่บ้านตัวเองที่บรรยากาศไม่ธรรมดา
ที่นี่มีสิ่งอำนวยความสะดวกในส่วนของพื้นที่ส่วนกลาง และโรงจอดรถสำหรับท่านที่นำรถส่วนตัวมา
สามารถเข้าดูข้อมูลได้ที่ https://www.facebook.com/Prilpai-Guesthouse-Cafe-283935254972658